แต่นาฬิกาข้อมือก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียว ที่ทุกวันนี้ยังต้องใส่อยู่ประจำ เรือนไหนใช้สายทำจากหนัง จะใส่ได้ไม่นานก็เปื่อยยุ่ย เพราะชุ่มเหงื่อจนต้องเปลี่ยนสายบ่อย นั่นทำให้ระยะหลังมานี้ ผมใช้แต่นาฬิกาที่สายทำจากโลหะ แล้วหมั่นล้างทำความสะอาดทุกวัน

แต่ทุกวันนี้ กลับเป็นอีกประโยชน์ใช้สอยหนึ่ง ซึ่งนาฬิกาข้อมือให้กับผม คือ เรื่องการควบคุมน้ำหนัก เมื่อใดที่เริ่มลงพุง น้ำหนักมากขึ้น เวลาใส่กางเกงบางตัวที่เคยพอดี ก็กลายเป็นอึดอัด แบบนี้รู้ได้ แต่กางเกงของผมนั้น ส่วนมากจะเป็นแบบหลวมๆ มากกว่าพอดีตัว ทำให้กว่าจะรู้ว่าอ้วน ส่วนเกินนั้นมันก็มากจนลดยากเสียแล้ว
โดยทั่วไป คนเราจะมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมอยู่ในช่วงแคบๆ ช่วงหนึ่ง ร่างกายจะรู้สึกสบาย ไม่ผอมและไม่อ้วนเกินไป (ของผมอยู่ที่ 59-61 กิโลกรัม) ซึ่งแน่นอนว่า น้ำหนักตัวเป็นเรื่องเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพ
เลยเป็นที่มาของชื่อเรื่อง "นาฬิกาเพื่อสุขภาพ" ซึ่งจริงแล้วมันไม่ใช่นวัตกรรมอะไรเลย เป็นเพียงแค่การใช้งานผิดวัตถุประสงค์ของผม ก็เท่านั้นเอง
นาฬิกาข้อมือเรือนที่ใช้นี่แหละครับ ทำให้รู้สึกตัวได้เร็ว วันไหนเขย่าข้อมือซ้าย แล้วนาฬิกาไม่ไหลรื่นได้ระยะเหมือนทุกวัน นั่นผมบอกตัวเองได้เลยว่า เฮ้ย! ถึงเวลาที่ต้องควบคุมอาหารแล้ว อย่าตามใจปากมากนัก เพราะน้ำหนักที่เกินพอดี มีแต่เสียกับเสีย กินเยอะก็เปลืองเงิน สุขภาพแย่ ป่วยบ่อย ไหนจะค่ารักษาพยาบาลอีกละ ทั้งขึ้นทั้งล่อง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อสุขภาพที่ได้ผลที่สุด คือการลงทุนเวลา จัดแบ่งเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที รับรองว่าแข็งแรง สุขภาพเยี่ยมแน่นอนครับ -- แต่ง่ายๆ แค่นี้ ผมยังทำไม่ได้เลย :-(
ภาพประกอบ: http://www.hanowa.ch
No comments:
Post a Comment