วันข้างหน้าของโฮมสคูล
คาดหวังว่าจะมีการเกิดเครือข่ายสมาชิกพ่อแม่ที่สนใจระบบการเรียนรู้แบบนี้ เพื่อพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ และเปิดประเด็นต่างๆ โดยมีนักวิชาการมาชี้แนะให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจให้แก่พ่อแม่ ตลอดจนอยากให้ประชาชนทั่วไป หันมาสนใจ ในเรื่องปฏิรูปการศึกษาให้มากกว่านี้ เพื่อจะได้มีกระแสตื่นตัว ผลักดันให้เกิดการออกกฎหมาย เกี่ยวกับการศึกษา ระบบโฮมสคูลที่เป็นที่ต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
ผลวิจัยหลากหลายสำนัก บอกตรงกันว่า เด็กไทยอยากเรียนเก่ง แต่ขาดจิตสำนึกสาธารณะ เมินกิจกรรม ชุมชนอ่อนแอ ห่างเหินศาสนา และชอบโกหก
ตรงที่ผมเน้นด้วยเส้นใต้ใน quote กับตัวหนาสีแดงบรรทัดข้างบน ในฐานะของผู้ใหญ่(ที่เอาแต่โทษเด็ก) ทำให้ผมรู้สึกรู้สาเข้าเต็มเปาว่า ก็ไม่ใช่เพราะผู้ใหญ่ที่ไม่มีจิตสำนึกสาธารณะอย่างพวกเรานี่หรือ ทำให้เด็กขาดแคลนจิตสำนึกนี้ไปด้วย ตรรกะง่ายๆ คนให้ไม่มี แล้วคนรับมันจะมีได้ยังไง -- ข้อสรุปก็คือ ถ้าเด็กส่วนใหญ่ขาด ก็แสดงว่าผู้ใหญ่ส่วนมากไม่มีจิตสำนึกสาธารณะเช่นกัน
ยกตัวอย่างผมเอง มีลูกเล็กที่กำลังจะเข้าเรียน โดยส่วนตัวไม่เคยเชื่อมั่นว่า โรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่ในปัจจุบัน (ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจ คำตอบสุดท้ายย่อมเป็น "ผลกำไร" อยู่วันยังค่ำ) จะบ่มเพาะและสร้างเกราะคุ้มกันชีวิตให้กับเด็ก เพื่อที่จะหลุดพ้นจากวงจรความทุกข์ของสังคมทุนนิยมได้ (รู้สึกหนักหัวข้างซ้ายยังไงไม่รู้) -- สิ่งที่ผมทำ เพียงแค่บ่น แต่สุดท้ายก็ยอมส่งลูกเข้าไปผจญภัย ในแวดล้อมซึ่งผมไม่เชื่อมั่น เพียงเพราะกลัวคนรอบข้างประนาม แล้วหลังจากนั้น ก็ปล่อยให้มันเป็นไป จริงๆ
อีกตัวอย่างหนึ่ง คุณไก่กุ๊ก มีลูกชายวัยประถมสองคน กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.6 กับ ป.1 ทั้งสองคนเป็นเด็กดี เรียบร้อย ไม่ดื้อ ไม่เกเร เชื่อฟังพ่อแม่ ถ้าเราลองถามคุณไก่กุ๊กผู้เป็นแม่ในประเด็นนี้ แน่นอน เธอย่อมต้องอยากให้ลูกๆ ของตนเอง เป็นเยาวชนที่ดี มีจิตสำนึกสาธารณะ ชัวร์ป้าบ (เพราะลูกดี พ่อแม่ย่อมได้รับการสรรเสริญ)
เดือนก่อนมีประชุมสามัญประจำปีของหมู่บ้าน ซึ่งมีวาระที่ต้องอาศัยเสียง 3 ใน 4 ของลูกบ้านทั้งหมด เพื่ออนุมัติการแก้ไขระเบียบข้อบังคับบางข้อ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คุณไก่กุ๊กเธอเป็นแม่บ้าน ในวันนั้นไม่ได้มีธุระปะปังที่ไหน แต่เธอกลับไม่ยอมออกไปประชุม สถานที่ประชุมนั้นเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ข้ออ้างคือ ขี้เกียจ มีงานบ้านต้องทำเยอะแยะ และไม่สนใจด้วย พอมีเพื่อนมาตาม เธอตอบว่ายังไงรู้มั้ยครับ "โอ้ย! ไม่มีชั้น เค้าก็ประชุมกันได้ ไม่ต้องมายุ่งกับชั้นหรอก อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ" ลูกทั้งสองของเธอ นั่งฟังคำตอบของแม่อยู่ด้วยกันนั้นเอง
คุณไก่กุ๊ก เธอเองก็เคยเปรยๆ ในกลุ่มสนทนาของบรรดาแม่บ้านว่า อยากให้หมู่บ้านเราพัฒนา อยู่เย็นเป็นสุข มีนิติบุคคลที่แข็งแกร่ง ทำเพื่อส่วนรวม เก็บค่าส่วนกลางถูกๆ -- หวังว่าลูกชายทั้งสองของคุณไก่กุ๊ก จะเติบโตขึ้นมาเป็นเยาวชนคุณภาพ มีจิตสำนึกสาธารณะ คิดและทำเพื่อส่วนรวม นะคร้าบ
ผมเองก็กำลังพยายามพัฒนาตัวเอง เพื่อว่าแก่ตัวลงจะได้เป็นคนชรา ที่มีจิตสำนึกสาธารณะกับเขาด้วยคน
No comments:
Post a Comment