Wednesday, March 12, 2008

ลูกคิด "คุณค่าของเวลา"

บทที่สอง คุณค่าของเวลา

พ่อมั่นใจว่า เมื่อยังไม่ถึงเวลาที่พร้อม แม้ลูกคิดจะอ่านสิ่งที่พ่อเขียนนี้ซักกี่เที่ยว หรือจนกระทั่งท่องขึ้นใจ ลูกก็ไม่สามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง และไม่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้เลย แต่เวลาใดเมื่อพร้อม ลูกอาจจะเข้าใจได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องอ่านสิ่งที่พ่อเขียนเลยก็เป็นได้

เรื่องราวต่างๆ ที่พ่อคิดและเขียนถึงลูกนั้น เป็นเรื่องที่มีคนอื่นที่รู้จริงรู้มากกว่าพ่อ ได้บอกได้เล่าไว้แทบทั้งหมดแล้ว ลูกคิดอาจจะเคยได้อ่านได้เห็นมาก่อนหน้า ก็ถือซะว่านี่เป็นการอ่านจดหมายจากพ่อ ที่เขียนถึงลูกก็ได้นะครับ ในเมื่อเริ่มต้นด้วยเรื่องของเวลาแล้ว วันนี้พ่อว่าเราก็มาคุยกันในเรื่อง คุณค่าของเวลา ดีกว่านะ

ทุกการเรียนรู้ นอกจากจะต้องมีประสบการณ์ ไม่ว่าทางตรงด้วยตัวเอง หรือทางอ้อมจากเรื่องราวของคนอื่น แต่สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นต้นทุนสำหรับทุกผู้คนคือ 'เวลา' เวลาเป็นองค์ประกอบซึ่งสำคัญที่สุด ส่วนตัวพ่ออยากจะนิยามชีวิตว่า คือการใช้ทุกหน่วยของเวลาตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ ให้คุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุ้มค่าในที่นี้หมายถึงอย่างไร คุ้มค่าก็คือมีความสุข แล้วมีความสุขหมายถึงอย่างไรนั้น คงต้องมาเล่ายาวในโอกาสต่อไป

เวลาถือเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่ง ทรัพยากรคือสิ่งที่มีอยู่จำกัด จำเป็นต้องบริหารจัดการให้ดี ใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด (ใครบางคนบอกพ่ออย่างนี้เสมอ) สมมุติว่าวันหนึ่งลูกคิดมีเงินซัก 76,000 ล้านบาท แต่ ณ วันนั้น ชีวิตของลูกเองกลับไม่มีเวลาเหลืออีกต่อไปแล้ว ตอนนั้น เวลาแค่เพียงเสี้ยวนาทียังมีค่ามากกว่าเงิน 76,000 ล้านบาทนั่นมากนัก ลูกว่าจริงมั้ยครับ

คนเราทุกคนไม่มีใครสามารถรู้ได้หรอกว่า ตลอดทั้งชีวิตของตนที่เกิดมานั้น ตัวเองจะมีเวลาคนละเท่าไหร่ มันไม่แน่นอน (ความไม่แน่นอนนี่ละ แน่นอนที่สุด) จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ บางคนน้อย บางคนมาก แต่ไม่ว่าจะมากหรือน้อยอาจไม่สำคัญเท่ากับว่า จะใช้มันอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด มีหลายคนบอกว่า ถ้าเรารู้วันตายล่วงหน้าได้จะดีมาก เพราะจะทำให้เรารู้คุณค่าของเวลา (อาจไม่จริง สำหรับบางคน) พ่อเองก็เห็นด้วย ดังเช่นที่พระพุทธองค์ท่านเคยสอนไว้ว่า ให้ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก -- อืม! พ่อจะตายพรุ่งนี้แล้วนะครับ

ก่อนจบวันนี้ พ่ออยากฝากไว้อีกประเด็นหนึ่งว่า บางช่วงบางตอนที่เราพบกับความเศร้า เหงา เจ็บปวด เราอาจจะมองว่าเวลานั้นมันช่างโหดร้าย และยาวนานเสียเหลือเกิน แต่ในขณะเดียวกันคนอื่นๆ อาจจะกำลังเรียกร้องเรียกขอต่อเวลาอยู่ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นพ่อแนะนำว่า ควรเอาช่วงเวลาที่โหดร้าย ซึ่งเราคิดว่ายาวนานเสียเหลือเกินนั้น ไปทำอะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์กับคนหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บ้าง จะดีที่สุด


บทก่อน

No comments: