Tuesday, November 24, 2009

บันทึกธรรม 2

เรื่องเย็นซึ่งกำลังร้อน กันลืมเลยต้องรีบบันทึก เกี่ยวกับวิธีการฝึก "ดูจิต"

กลับมาแล้ว เพิ่งได้อ่าน เรื่องจากปก บ้านอารีย์ วารสารธรรมะ..แบ่งปัน ฉบับที่ ๔๔ -- หลานปู่ กับ เด็กข้างบ้าน (หน้า 3)

ข้อความเหล่านี้ที่ยกมา ช่วยขยายความหลักคำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ซึ่งผมสรุปไว้ในตอนท้ายของบันทึกที่แล้ว


ระหว่างหลานปู่กับเด็กข้างบ้าน มีความแตกต่างกันตรงที่
เราจะคิดว่าหลานปู่นี้เป็นของเรา แต่เด็กข้างบ้านจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรา
หรือพูดง่ายๆ ว่า ไม่มีเราเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในนั้น
หากใช้มุมนี้มาเทียบเคียงกับการดูจิต ก็น่าจะเกิดประโยชน์
ทำให้เห็นได้ว่า จิตนี้ไม่ใช่เรา



"ให้ดูจิตเหมือนเด็กข้างบ้าน ที่เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะ"

ดูเฉยๆ อย่างไม่มีส่วนได้ ส่วนเสีย ไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง ดัดแปลง ควบคุม ปล่อยให้จิตแสดงธรรมชาติของมัน เหมือนเด็กไร้เดียงสาที่แสดงธรรมชาติของตัวเอง โดยไม่เสแสร้ง



"โทสะ" ก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่งที่จิตเข้าไปรู้..มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ตามเหตุ ปัจจัย...

ดูโทสะเหมือนเด็กข้างบ้าน ไม่ใช่หลานรักของปู่
เมื่อโทสะเกิดให้รู้ แค่คอยตามดู
ไม่ต้องไปอยากให้มันหายโกรธ ไม่จำเป็นต้องไปบังคับให้มันหยุดโกรธ
รู้อย่างที่มันเป็น...ดูธรรมชาติของมันด้วยใจที่เป็นกลาง
แล้วจะเห็นมันเกิด-ดับเอง โดยที่เราไม่ได้ไปทำอะไรกับมันเลย
มันเกิดเพราะมีเหตุ...หมดเหตุ มันก็ดับ...แค่นั้นเอง
ตามรู้ ตามดูไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าไม่มีความเป็นเราในโทสะเหล่านั้น



"ความโกรธ" มันไม่น่ากลัวเท่าไหร่...แต่เมื่อไรที่ "เราโกรธ" นี่สิ...ค่อยน่ากลัวจริงๆ

No comments: