ดูเหมือนว่าชีวิตในปัจจุบัน ความเป็นส่วนตัว (privacy) ของคนทำงานกินเงินเดือนอย่างเราๆ แทบจะไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าช่องทางไหน อินเทอร์เน็ต (email, msn, facebook, twitter) โทรศัพท์มือถือ (voice, sms) หรือโทรศัพท์บ้าน พวกนำเสนอขายสินค้าและบริการ สามารถเข้าถึงเราได้ตลอดเวลา ชีวิตจะสงบได้คงต้องปิดทุกช่องทางสื่อสาร ทำตัวเป็นฤาษี ขนาดนั้นกันเลย
แม้กระทั่งขณะที่เรากำลังเดินดุ่มๆ ออกจากสถานีรถไฟฟ้า เราก็มักจะโดนทักจากคนไม่รู้จักว่า "...พี่ครับพี่ ผม/หนู ขอรบกวนเวลาซัก 2 นาทีได้มั้ยครับ/คะ..." (ก่อนหน้านี้ ผมเจอแทบจะวันเว้นวัน แต่ช่วงนี้ดีหน่อย คงเพราะฝนตกบ่อย เลยไม่ค่อยมากัน)
คนไทยเราส่วนใหญ่ขี้เกรงใจ ไม่อยากปฏิเสธต่อหน้าตรงๆ เหมือนที่คิดอยู่ในใจ
"... ไม่ กูไม่เอา กูไม่ซื้อ กูไม่ทำ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ มึงอย่ามายุ่งกับกูได้มั้ย ..."
มีแต่แบบนี้
"เอ่อ! คือ น้องครับ/คะ ไว้ค่อยโทรมาใหม่นะ พี่ติดประชุม"
"เอ่อ! คือ น้องครับ/คะ เอาไว้พี่ขอไปปรึกษาแฟนก่อนนะ"
"เอ่อ! คือ น้องครับ/คะ ตอนนี้พี่ยังช้อตอยู่ สิ้นเดือนค่อยโทรมาใหม่นะ"
ฯ ล ฯ
เป็นซะอย่างนี้ ไอ้คนโทรมันก็ยังไม่เลิกโทรหรอกครับ เดี๋ยวนี้ผมมีมุกเดียว ชัดถ้อยชัดคำ ท่องจำขึ้นใจ
"น้องครับ อยากนำเสนออะไร คุยได้ครับ พี่ฟังได้ แต่พียืนกรานว่าพี่ไม่ซื้อ พี่ไม่ทำอะไรทั้งนั้น เชิญครับ"
...
ช่วงหลัง พวกบริษัทฯ ฝึกอบรมต่างชาติแถบมาเลเซีย สิงคโปร์ โทรเข้ามานำเสนอ training course ผมบ่อยมาก แน่นอนมันพูดภาษาอังกฤษยาวๆ และมักจะจบด้วยประโยคคำถามว่า Is this interesting for you?
คำตอบของผมเหรอ นี่เลย -- Yes, but we have no budget for oversea training at all. แล้วก็ต่ออีกนิดว่ามีรายละเอียดอะไรมากกว่านี้ให้ส่งอีเมลมาได้เลย ร้อยทั้งร้อย เงียบหายเข้ากลีบเมฆ
ผมว่าตรงๆ แบบนี้แหละดี ไม่เยิ่นเย้อ ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย ถ้าเราไม่มีใจจริงๆ อย่าไปให้ความหวังครับ จบเลยดีกว่า
No comments:
Post a Comment